1728 จำนวนผู้เข้าชม |
การถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ นอกจากจะเป็นงานอดิเรกเพื่อความบันเทิงแล้ว มันยังสามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพได้ ไม่ใช่แค่อาชีพเสริมแต่สามารถเป็นอาชีพหลักให้เราได้อีกด้วย ในยุคที่ทุกอย่างล้วนเป็นออนไลน์ ขายของออนไลน์ก็ต้องมีรูปที่ดี จะทำวีดีโอลงยูทูปก็ต้องมีกล้องที่ดี แค่มือถือที่มีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่การหาซื้อกล้องสักตัวมาใช้ มาเล่น มันก็ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่ ถ้าไปเดินตามร้านขายกล้องมันก็มีให้เลือกมากมาย ราคาก็ต่างกันเยอะมาก เริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ทำไมมันถึงต่างกันได้ขนาดนี้ แล้วตกลงเราต้องซื้อแบบไหนถึงจะดี บทความนี้เราจึงอยากช่วยให้คนที่กำลังหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่า ถ้าอยากได้กล้องสักตัวมาใช้ อยากซื้อกล้องสักตัว จะเลือกอย่างไรดี มาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
เมื่อเราเดินเข้าไปที่ร้านขายกล้อง มีพนักงานเข้ามาถามเราว่า “กำลังหาแบบไหนอยู่ครับพี่” สิ่งแรกที่เราควรต้องตอบให้ได้คือ ชนิดของกล้องที่เราต้องการ อย่าไปบอกเขานะครับว่า “ผมอยากได้กล้องซักตัวครับเอารุ่นใหม่หน่อย” แบบนี้เขาก็จะแนะนำยาก เราควรจะบอกกับเขาว่า “ผมมาดูกล้อง DSLR (ชนิดของกล้อง) ราคาไม่เกินสามหมื่น” แบบนี้ดีกว่าครับ แล้ว DSLR มันคืออะไร มันคือชนิดของกล้องครับ ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 3 แบบคือ DSLR (Digital Single Lens Reflex) , Mirrorless และ Compact นอกนั้นก็จะเป็นกล้องที่ใช้กับงานเฉพาะทางเช่น GoPro
DSLR (Digital Single Lens Reflex) : ภาษาไทยแปลว่ากล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวระบบดิจิตอล ซึ่งไม่มีใครเรียกครับเพราะมันยาวเกิน เขาจะเรียกไปเลยครับว่า กล้อง DLSR มันเป็นกล้องที่มีขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 แบบ แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ของมัน จึงสามารถใส่แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่ากล้องแบบอื่นได้ และถ้าเราแบกมันไปถ่ายงานให้ลูกค้า เขาก็จะเห็นว่าเราดูมีความเป็นมืออาชีพกว่า (ทั้ง ๆ ที่คุณภาพอาจเหมือนเดิม) หากไปงานมอเตอร์โชว์แล้วเล็งไปที่พริตตี้ น้อง ๆ ก็มีโอกาสโพสท่าให้เรามากกว่าครับ (ล้อเล่นนะ) แต่หากเราไม่ได้จะรับงานอะไร แค่อยากมาฝึกถ่ายภาพเล่น ๆ ไปก่อน แล้วจะเลือกใช้กล้องตัวนี้ ขอให้ออกกำลังกายเยอะ ๆ ด้วยนะครับ เพราะเราต้องใช้แรงถือพอสมควรเลย ไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ตัวเล็ก ๆ นะครับ
Mirrorless Camera : กล้องไร้กระจก แต่ก็เช่นกันไม่มีใครเรียกอย่างนี้ ถ้าจะไปหาซื้อก็บอกกับเขาว่า Mirrorless นะครับ มันคือกล้องที่เป็นเทคโนโลยีใหม่กว่า DSLR แต่ประสิทธิภาพหรือความสามารถของมันก็ไม่ได้ต่างไปกับ DSLR เลยครับยิ่งโดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมา ข้อดีของมันคือ มีขนาดและน้ำหนักที่เบากว่า และมีฟังก์ชั่นเสริมที่เยอะกว่า ระบบอัตโนมัติที่ช่วยเหลือเราก็มีมากกว่า แต่ด้วยระบบอัตโนมัติหรือฟังก์ชั่นที่มันให้มาเยอะก็อาจทำให้เรางงได้เหมือนกันครับว่า ตกลงมันต้องกดตัวไหนหรือเลือกเมนูอะไร แต่เชื่อว่าใครที่ต้องการซื้อกล้องสักตัวก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว
Compact Camera : กล้องดิจิตอลขนาดเล็ก สามารถพกพาง่าย ใช้ง่าย มันเป็นกล้องที่คล้ายกับกล้องมือถือที่สุด (แต่ดีกว่าขั้นนึง) สามารถใช้งานได้ครอบจักรวาล แต่อาจไปไม่สุดสักทางนะครับ
หลังจากที่บอกกับพนักงานแล้วว่าอยากได้กล้องแบบไหน สิ่งที่เราควรจะบอกเขาว่า “มีงบเท่าไหร่” เพราะอยากที่เกรินนำไว้ตั้งแต่ต้นนะครับว่า ราคาของกล้องดิจิตอลนั้นมีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ถ้าเราไม่ได้บอกงบประมาณกับเขาไป เขาอาจแนะนำกล้องตัวละแสนให้เราก็ได้นะ ถ้าเรารวยอยู่แล้ว เงินมันเหลือใช้ก็จัดไปเลยครับ แต่ถ้าไม่ เรากำหนดงบประมาณของตัวเองไว้ก่อนดีกว่านะครับ
แล้วทำไมราคามันถึงต่างกันได้ขนาดนี้ ก็เพราะกล้องดิจิตอลแต่ละตัวมันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต่างกันอยู่ครับ เช่น
เซนเซอร์กล้อง : มันคือตัวที่ทำให้คุณภาพของวีดีโอหรือรูปถ่ายของเราออกมาแจ่มแมวแวววับขนาดไหน (ขนาดเซนเซอร์กับขนาดพิกเซลคนละตัวกันนะครับ) และตัวเซนเซอร์นี้เอง เป็นจุดที่แตกต่างจากมือถือที่เราใช้ถ่ายรูป นี้แหละตัวแพงเลยครับ กล้องดิจิตอลทั่วไปจะใช้เซนเซอร์อยู่ 3 แบบเรียงจากแพงไปถูกคือ Full Flame , APS-C (Advanced Photo System type-C) และ Micro four thirds ซึ่งคุณภาพก็เรียงตามนี้เช่นกันครับ นอกจากนั้นยังมีพวกเซนเซอร์โฟกัสซึ่งแตกต่างกัน บางตัวโฟกัสได้ไว บางตัวโฟกัสได้เที่ยงตรงตามที่เราต้องการ
เมาท์เลน : มันคือข้อต่อกล้องกับเลนส์ กล้องดิจิตอลสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ (ไม่ได้แค่บางรุ่น) สิ่งที่เราต้องคิดก่อนซื้อคือแต่ละยี่ห้ออาจใช้เลนส์ที่ไม่เหมือนกันนะครับ เช่น เลนส์ SONY อาจใช้กับ CANON ไม่ได้
ภาพ/วีดีโอ : ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่เราจะใช้ ถ้าเราเอามาถ่ายวีดีโอก็ขอให้ดูความละเอียดด้วยนะครับเช่น Full-HD 120 FPS หรือ UHD (4K) 60FPS และต้องเช็คด้วยว่ามีระบบกันสั่นไหมด้วยนะ ไม่ใช่ซื้อมาแล้วเดินถ่ายวีดีโอสั่นเหมือนเจ้าเข้านี้ไม่บันเทิงนะครับ ส่วนเรื่องภาพนั้นต้องบอกว่าแต่ละค่าย skin tone จะออกมาไม่ค่อยเหมือนกัน อย่าง CANON จะออกขาวใส ส่วน FUJI จะอมชมพู ซึ่งแล้วแต่เราชอบเลยครับ
การเชื่อมต่อ : Bluetooth Wifi เป็นสิ่งที่ควรมีอยู่ในกล้องดิจิตอลสมัยนี้อยู่แล้ว แต่หากเราต้องใช้งานอย่างเช่นเน้นเรื่องถ่ายวีดีโออาจเลือกดูว่ามีช่องเสียบไมโครโฟน เสียบหูฟัง (เช็คเสียงได้) หรือว่าจะ Live Stream ก็ต้องใช้ช่องต่อ HDMI สิ่งเหล่านี้กล้องแต่ละตัวอาจมีให้ไม่เหมือนกันนะครับ
หน้าจอ/ช่องมองภาพ : ถ้าอยากเอามาถ่าย VLOG หรือถ่ายเซลฟี่ ขอให้เลือกหน้าจอที่พับได้นะครับโดยแต่ละรุ่นก็จะไม่เหมือนกันบ้างพับด้านบนบ้างพับด้านข้าง อันนี้แล้วแต่ที่เราชอบเลย ส่วนหน้าจอบางรุ่นสามารถ touch ได้ซึ่งบางคนชอบแต่บางคนก็ไม่ชอบ (ชอบแบบปุ่มเยอะ ๆ ) และตัวเด็ดคือช่องมองภาพ (Viewfinder) มันจะช่วยเรามองได้ชัดตอนถ่ายในที่แสงจ้าครับ
นอกจากนั้นก็จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่เราสามารถค้นหาได้ แต่กล้องที่ทำได้ทุกอย่างไม่มีนะครับ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเราควรชัดเจนกับตัวเองก่อนว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร เอาไว้ถ่ายตอนเที่ยว เน้นถ่ายเซลฟี่ ถ่ายวีดีโอทำ VLOG หรือต้องการเน้นถ่ายภาพนิ่ง โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายที่จะเอาไปถ่ายรูปสินค้าลงขาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Shopee Lazada หรือ Goomeemarket ซึ่งเป็นตลาดออนไลน์ของคนไทยที่ไม่คิดค่าธรรมเนียม หากเรารู้ความต้องการของตัวเองแล้วเชื่อว่าเราจะได้กล้องที่เหมาะกับเราแน่นอนครับ